รถไฟ ถือเป็นยานพาหนะหัวใจหลักสำคัญของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับชาวนักท่องเที่ยวหรือคนในท้องถิ่นเองก็ตาม นอกจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสดื่มด่ำกับธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์แล้ว จุดชมวิวสวยๆที่เป็นไฮไลท์ระหว่างสองข้างทาง ต่างล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ภูเขา และน้ำทะเล ที่ชวนหลงไหลดึงให้เรา อยากที่จะนำเสนอหยิบยก10ตัวอย่างเส้นทางรถไฟในญี่ปุ่นที่เหล่าคนรักธรรมชาติต้องสัมผัสเองด้วยตัวคุณ รับรองเลยว่าคุณจะหลงรักไปกับวิวสวยๆ จนต้องกลับมาเที่ยวอีกครั้งแน่ๆ (Credit by:http://travel.rakuten.co.jp/ranking/special/localtrain/ )
1. สาย Gonō Line (จากจังหวัดอาโอะโมะริถึงจังหวัดอากิตะ)
ทำไม รถไฟญี่ปุ่น สายนี้จึงคว้าอันดับหนึ่งไปครอง คงไม่ต้องสงสัยก็เป็นเพราะนอกจากจะวิ่งผ่านเทือกเขาชิระกะมิ ซึ่งการันตีความงดงามจากองค์การยูเนสโก้ที่จัดให้เป็นมรดกโลกแล้ว มันยังวิ่งผ่านแนวชายฝั่งทะเลให้คุณได้เห็นผืนน้ำสุดกว้างใหญ่ อีกทั้งความงดงามของเกาะฮอนชูที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
2. สาย Ōigawa Railway (จังหวัดชิซุโอะกะ)
หัวรถจักรไอน้ำอันเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโบราณกาลยังคงถูกนำมาใช้เป็นหัวขบวนรถไฟญี่ปุ่นสายนี้ จนทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังสมัยก่อนอดีตลำลึกเลยล่ะ นอกจากนี้การที่รถไฟแล่นผ่านไร่ชาเขียวขจีงดงามและแม่น้ำสีฟ้าใสชุ่มชื่นยังทำให้คุณรู้สึกอิ่มเอมใจ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี สองข้างทางที่รถไฟแล่นผ่านก็จะทำให้คุณตื่นตาไปกับสีสันของใบไม้ที่ไล่เฉดกันมาตั้งแต่เขียว น้ำตาล ส้ม แดง
3. สาย Senmō Main Line (จังหวัดฮอกไกโด)
แม้จะไม่ได้เดินทางไปไหน แต่การนั่งรถไฟญี่ปุ่นสายนี้ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เที่ยวตลอดทางเลยก็ว่าได้ เนื่องจากขบวนนี้จะแล่นผ่านอุทยานแห่งชาติ Kushiro-shitsugen และอุทยานแห่งชาติ Abashiri Quasi-National รวมถึงผ่านจุดตัดระหว่างทะเล Okhotsk และทะเลสาบ Tofutsu อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่น้ำในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง วิวสองข้างทางจะขาวสะอาดตาด้วยลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เลยทีเดียว
4. สาย Aizu Railway (จังหวัดฟุกุชิมะ)
เป็นรถไฟญี่ปุ่นที่คุณสามารถขึ้นได้จากโตเกียว ทว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่รู้หรืออาจจะคิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่คุณผิดถนัดเลย เพราะหากได้มาเห็นความสวยงามของป่าไม้พืชพันธุ์นานาชนิดรอบด้าน มันจะทำให้คุณลืมไปเลยกับความสวยงามในโตเกียว
5. สาย Tadami Line (จังหวัดฟุกุชิมะถึงจังหวัดนีงะตะ)
อีกหนึ่งความพิเศษของขบวนรถไฟญี่ปุ่นในจังหวัดฟุกุชิมะ คือ เส้นทางรถไฟญี่ปุ่นสายนี้ ที่วิ่งจากจังหวัดฟุกุชิมะไปถึงจังหวัดนีงะตะ ที่คุณจะต้องข้ามสะพานเหล็กพาดผ่านแม่น้ำและป่าไม้ แม้ช่วงเวลาที่รถไฟแล่นข้ามสะพานอาจจะชวนหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ความงดงามสองข้างทางจะทำให้คุณเพลินจนรู้สึกว่ามันผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน
6. สาย Sanriku Railway (จังหวัดอิวาเตะ)
รถไฟญี่ปุ่นสายนี้ในจังหวัดอิวาเตะ มีจุดเด่นอยู่ที่วิวของมหาสมุทรแปซิฟิกสีครามสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งป่าไม้สีเขียวทั่วทุกสารทิศ ที่นักท่องเที่ยวยกให้มันเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าประทับใจของการเดินทางรถไฟในญี่ปุ่นก็ว่าได้
7. สาย Sagano Scenic Railway (เกียวโต)
รถไฟญี่ปุ่นสายนี้ มีเอกลักษณ์อยู่ที่มันเป็นรถไฟดีเซลและมีส่วนประกอบที่ทำจากไม้ ซึ่งนับว่าหาดูได้ยากในญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน อีกทั้งเส้นทางที่รถไฟแล่นผ่านยังมีจุดหวาดเสียวอยู่ไม่น้อยบริเวณริมเขา นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังนิยมเปิดหน้าต่างเพื่อรับลมแล้ว ว่ากันว่ามันเป็นรถไฟที่มีบรรยากาศชวนให้ผู้เดินทางคิดถึงบ้านด้วยล่ะ จะจริงหรือไม่นั้นก็ต้องไปพิสูจน์กันเอาเอง
8. สาย Himi Line (จังหวัดโทะยะมะ)
จังหวัดโทะยะมะเป็นที่ตั้งของภูเขาและเทือกเขามากมาย มันจึงมีทัศนียภาพที่สวยงามอีกทั้งยังมีวิวของน้ำทะเลให้ได้เห็นกันด้วย และแน่นอนว่าหากคุณเดินทางโดยรถไฟญี่ปุ่นสายนี้ ก็จะเห็นวิวเหล่านั้นในมุมมองขณะที่ขบวนรถไฟแล่นผ่านไป ดังนั้นก็ต้องจับตาดูความสวยงามกันให้ดี ที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวคุณยังจะได้เห็นหิมะขาวโพลนปกคลุมอยู่เหนือยอดเขาและริมทางอีกด้วย
9. สาย South Aso Railway
(เมืองคุมะโมะโตะ)
แม้ขบวนรถไฟญี่ปุ่นสายนี้ จะไม่ได้แล่นผ่านภูเขาไฟ Aso ซึ่งเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยว แต่ทว่าความสวยงามทางใต้ที่ขบวนรถไฟแล่นผ่านก็มีความน่าสนใจอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวิวของทุ่งนาและภูเขาหรือการข้ามสะพานเหล็กในระดับความสูงที่ทำให้หายใจไม่ทั่วท้องแล้ว ก็เป็นสิ่งการันตีได้ว่ามันเป็นอีกหนึ่งเส้นทางรถไฟที่สวยงามของญี่ปุ่น
10. สาย Nagaragawa Railway
(จังหวัดกิฟุ)
มาถึงทางรถไฟญี่ปุ่นสายนี้ หากคุณไม่ได้มีจุดหมายใดเป็นพิเศษ การนั่งรถไฟสายนี้เยี่ยมชมความงดงามของต่างจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นก็เป็นไอเดียที่ดีไม่แพ้สายใดๆทีเดียวเชียว
ส่วนใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นแดนปลาดิบ เห็นทีทริปครั้งนี้ของคุณต้องนั่งรถไฟออกนอกเมืองมาชมความงดงามของวิวสองข้างทางกันบ้าง ซึ่งนอกจากบรรยากาศรอบด้านจะทำให้คุณสดชื่นแล้ว คุณยังจะได้เห็นญี่ปุ่นในอีกมุมหนึ่งที่จะทำให้คุณตกหลุกรักในมลเสน่ห์และย้อนหวนกลับมาใหม่อีกก็เป็นได้
Go to top
ไปดูกัน
0
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น